ช้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาไทย กรดเปอร์อะซิติก
ชื่อภาษาอังกฤษ Peracetic acid
ชื่อทางการค้า
ประเภทสารเคมี 5.2 สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์
Cas no. 79-21-0
UN Number 3105
Formula C2H4O3 / CH3COOOH
จุดเดือด 105°C องศาเซลเซียส
จุดหลอมละลาย 0°C องศาเซลเซียส
AEGL1 0.17
AEGL2 0.5
AEGL3 4.82
NFPA
2 3 4 OXY

ความอันตราย

กลุ่มสารเคมี สารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์ (ไวต่อความร้อนและการปนเปื้อน)
Polimerization ไม่เป็น Polimerization
สารเคมีมีอันตรายสูงหากสูดดม (Toxic Inhalation Hazard:TIH) ไม่เป็น
ก๊าซพิษเมื่่อสารสัมผัสกับน้ำ
อัคคีภัยหรือการระเบิด 1.อาจระเบิดเนื่องจากความร้อนหรือการปนเปื้อน
2.อาจทำให้สารที่ลุกติดไฟ เช่น ไม้ กระดาษ น้ำมัน ผ้า ลุกติดไฟ
3.อาจจุดติดไฟด้วยความร้อน ประกายไฟ หรือเปลวไฟ
4.อาจลุกไหม้อย่างรวดเร็วและเกิดเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่
5.น้ำเสียจากพื้นที่เกิดเหตุอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิด
ผลต่อสุขภาพ 1.หากสารเกิดลุกไหม้ อาจเกิดก๊าซที่มีฤทธิ์ระคายเคือง กัดกร่อน และ/หรือเป็นพิษ
2.การกินหรือสัมผัส (ผิวหนัง ดวงตา) กัวตัวสาร อาจเกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงหรือแผลไหม้
3.น้ำเสียจากการดับเพลิงหรือที่ใช้เจือจางสาร อาจก่อมลพิษ

การเข้าระงับเหตุเบื้องต้น

คำแนะนำเบื้องต้น 1.โทรแจ้งหมายเลขฉุกเฉินที่ระบุในเอกสารกำกับขนส่ง หากไม่พบเอกสาร ฯ หรือ ไม่มีผู้รับสายให้โทรแจ้งหมายเลขที่เหมาะสมที่ระบุอยู่ด้านในปกหลังคู่มือ
2.กั้นแยกพื้นที่ที่สารรั่วไหลทันทีทุกทิศทางอย่างน้อย 50 เมตร (150 ฟุต) ถ้าเป็นของเหลว และอย่างน้อย 25 เมตร (75 ฟุต) ถ้าเป็นของแข็ง
3.กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากพื้นที่
4.อยู่เหนือลม
5.ห้ามอยู่ในที่ต่ำ
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง 50
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของเหลว 0
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของแข็ง 0

ชุดป้องกัน

คำแนะนำ 1.สวมใส่ชุดเครื่องช่วยหายใจส่วนบุคคลแบบมีถังอากาศ
2.ชุดดับเพลิงสามารถป้องกันอันตรายได้อย่างจำกัดเมื่อเกิดกรณีเพลิงไหม้สารแต่อาจไม่สามารถป้องกันอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพกรณีที่เกิดเฉพาะการหกรั่วไหล
3.สวมชุดป้องกันอันตรายจากสารเคมีตามข้อแนะนำของบริษัทผู้ผลิต ทั้งนี้ชุดป้องกันอันตรายจากสารเคมีไม่สามารถป้องกันอันตรายจากความร้อนสูง
ข้อควรระวัง
Type

การอพยพ

การรั่วไหลขนาดเล็ก

กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) 0
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) 0
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) 0

การรั่วไหลขนาดใหญ่

กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) 0
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) 0
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) 0

กรณีเกิดการเพลิงไหม้

คำอธิบายการอพยพ ในกรณีที่เกิดการลุกไหม้ 1.หากถังบรรจุขนาดใหญ่ ตู้รถไฟหรือรถบรรทุกสาร เกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ ให้กั้นแยกพื้นที่เกิดเหตุ 800 เมตร ( 1/2 ไมล์) และพิจารณาอพยพประชาชนเบื้องต้น 800 เมตร ( 1/2 ไมล์) ทุกทิศทาง
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) 800
ระยะอพยพประชาชน ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ หน่วยเป็นเมตร 800
คำแนะนำ

การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

กรณีเกิดการเพลิงไหม้

ข้อควรระวัง หรือคำเตือน เ
เพลิงไฟขนาดเล็ก 1.ควรใช้น้ำฉีดเป็นฝอยหรือหมอก หากไม่สามารถจัดหาน้ำได้ ให้ใช้ผงเคมีแห้ง CO2 หรือโฟมดับเพลิง
เพลิงไฟขนาดใหญ่ 1.ฉีดน้ำดับเพลิงปริมาณมากจากระยะไกล
2.ฉีดน้ำเป็นฝอย หมอก
3.ห้ามฉีดน้ำเป็นลำตรง
4.ห้ามเคลื่อนย้ายตู้สินค้าหรือรถขนส่งหากตู้สินค้าได้รับความร้อนเป็นเวลานาน
5. เคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุออกจากบริเวณเพลิงไหม้ หากทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ภาชนะบรรจุหรือรถขนส่ง 1. ฉีดน้ำดับเพลิงจากระยะไกลที่สุด หรือใช้หัวฉีดน้ำชนิดที่ไม่ต้องใช้คนควบคุมหรือใช้แท่นฉีดน้ำแทน
2. ฉีดน้ำปริมาณมากหล่อเย็นภาชนะบรรจุ จนกว่าเพลิงจะสงบ
3. อยู่ห่างจากภาชนะบรรจุที่ไฟลุกท่วมตลอดเวลา
4. สำหรับเพลิงไหม้รุนแรงและใหญ่มาก ให้ใช้หัวฉีดชนิดที่ไม่ต้องใช้มือจับหรือใช้แท่นฉิดน้ำแทนหากไม่มีให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่และปล่อยให้ไฟลุกไหม้จนดับไปเอง
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ตู้สินค้า

กรณีเกิดการหกรั่วไหล

วิธีการเข้าระงับเหตุ 1. กำจัดแหล่งที่อาจทำให้เกิดการจุดไฟทั้งหมด (ห้ามสูบบุหรี่ จุดพลุ ทำให้เกิดประกายไฟ หรือเปลวไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ)
2.แยกวัสดุ/สารที่ลุกติดไฟได้ (ไม้ กระดาษ น้ำมัน ฯ) ออกจากบริเวณที่มีการรั่วไหล
3.ห้ามสัมผัสภาชนะบรรจุที่เสียหายหรือสารที่หกรั่วไหล หากไม่สามใส่ชุดป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสม
4.ฉีดน้ำเป็นฝอยรักษาสภาพสารให้เปียก
5. ระงับการรั่วไหลของสาร หากทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย
คำเตือนสำหรับการเข้าระงับเหตุเมื่อเกิดการหกรั่วไหล
หกรั่วไหลปริมาณเล็กน้อย 1.ดูดซัพด้วยสารที่เฉี่อยต่อการเกิดปฏิกิริยา เปียก และไม่ติดไฟ แล้วใช้อุปกรณ์ที่สะอาดและไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ ตักสารใส่ภาชนะบรรจุพลาสติกที่สะอาด ปิดฝาหลวม ฯ เพื่อส่งกำจัดต่อไป
หกรั่วไหลปริมาณมาก 1.ทำให้สารเปียกด้วยน้ำ และสร้างคันกั้นหรือร่องกักสาร เพื่อส่งกำจัดต่อไป
2.ป้องกันมิให้สารไหลลงน้ำ ท่อระบายน้ำ ชั้นใต้ดิน หรือบริเวณอัพอากาศ
3.ห้ามทำความสะอาดพื้นที่หรือกำจัดสาร ยกเว้นดำเนินการภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

การปฐมพยาบาล

คำแนะนำ 1.นำผู้บาดเจ็บไปยังพื้นที่อากาศบริสุทธิ์
2. โทรแจ้ง 191 หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉุกเฉิน 1669
3. ใช้เครื่องช่วยหายใจหากผู้บาดเจ็บหยุดหายใจ
4. ให้ออกซิเจนถ้าผู้บาดเจ็บหายใจลำบาก
5. ถอดและแยกเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อน
6.หากเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนนั้นแห้งอาจลุกติดไฟ
7. รักษาอุณหภูมิร่างกายผู้บาดเจ็บให้อบอุ่นและให้อยู่ในที่สงบ
8. ถ้าสัมผัสกับสาร ให้ล้างผิวหนังและดวงตาโดยวิธีให้น้ำหลผ่านทันที อย่างน้อย 20 นาที
9. ต้องมั่นใจว่าหน่วยแพทย์ทราบชนิดและอันตรายของสารต่าง ๆ รวมทั้งมีการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม

มาตรการกำจัดของเสีย

ปรึกาาผู้เชี่ยวชาญ เก็บกวาดสารที่หกออกมาใส่ในภาชนะพลาสติกที่มีฝาปิด ใช้ทรายหรือสารดูดซับเฉื่อยโรยที่ของเหลวที่เหลือและนำไปทิ้งในที่ปลอดภัย ห้ามดูดซับด้วยขี้เลื่อยหรือสารดูดซับที่ติดไฟได้ ห้ามล้างลงท่อระบายน้ำ ห้ามปล่อยลงท่อระบายน้ำ

การทำปฏิกิริยา การระเบิด

อาจเกิดการระเบิดสลายตัวเมื่อได้รับการกระแทก เสียดสีหรือสั่นสะเทือน อาจเกิดระเบิดเมื่อได้รับความร้อน ทำปฏิกิริยารุนแรงกับวัสดุติดไฟได้และวัสดุรีดิวซ์

ข้อมูลสารเคมีที่ทําปฏิกิริยากัน

ข้อมูลการเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์

สารนี้เป็นพิษอย่างมาต่อสิ่งแวดล้อม

มาตรการป้องกัน

เก็บในที่ป้องกันไฟได้ ต้องมีการเตรียมการเก็บกักสิ่งที่เกิดจากการดับเพลิง เก็บแยกจากสารที่ติดไฟได้และสารรีดิวซ์ วัสดุที่เข้ากันไม่ได้ เก็บในที่เย็น เก็บสารเฉพาะที่อยู่ในสภาวะคงตัว

ข้อมูลเพิ่มเติม

Version: 1.0.190 BETA