ช้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย | ไอโซบิวทีน |
ชื่อภาษาอังกฤษ | Isobutane |
ชื่อทางการค้า | |
ประเภทสารเคมี | 2.1 ก๊าซไวไฟ |
Cas no. | 75-28-5 |
UN Number | 1969 |
Formula | C4H10 / (CH3 ) 2CHCH3 |
จุดเดือด | -12°C องศาเซลเซียส |
จุดหลอมละลาย | -160°C องศาเซลเซียส |
AEGL1 | - |
AEGL2 | - |
AEGL3 | - |
NFPA |
4
1
0
|
ความอันตราย
กลุ่มสารเคมี | ก๊าซ - ไวไฟ (รวมทั้งก๊าซเหลวเย็นจัด) |
Polimerization | ไม่เป็น Polimerization |
สารเคมีมีอันตรายสูงหากสูดดม (Toxic Inhalation Hazard:TIH) | ไม่เป็น |
ก๊าซพิษเมื่่อสารสัมผัสกับน้ำ | |
อัคคีภัยหรือการระเบิด | -ไวไฟสูงมาก ไอระเหยจากก๊าซเหลว ในขั้นต้นจะหนักกว่าอากาศ และแพร่กระจายไปตามพื้น -เมื่อผสมกับอากาศอาจเกิดส่วนปสมที่ระเบิดได้ -ลุกติดไฟได้ง่ายเมื่อได้รับความร้อน ประกายไฟ หรือเปลวไฟ -ไอระเหยสารอาจลอยไปหาแหล่งความร้อนหรือประกายไฟ ติดไฟและเปลวไฟย้อนกลับไปยังต้นกำเนิด ถึงบรรจุก๊าซทรงกระบอกที่ถูกเพลิงไหม้อาจปล่อยก๊าซไวไฟออกมาทางอุปกรณ์ควบคุมความดันนิรภัย ภาชนะบรรจุอาจระเบิดเมื่อได้รับความร้อน ถังบรรจุก๊าซทรงกระบอกที่ฉีกขาดอาจพุ่งไปในทิศทางต่าง ๆ -คำเตือน : ไฮโดรเจน(UN 1049) ดิวเทอเรียม (UN 1957) หรือไฮโดรเจนเหลว (UN 1966) และมีเทน (UN 1971) จะเบากว่าอากาศและลอยตัวขึ้นสูง เพลิงไหม้ที่เกิดจากไฮโดรเจนและดิวเทอเรียมตรวจจับได้ยากเพราะมองไม่เห็นเปลวไฟ ต้องใช้ทางเลือกอื่นในการตรวจจับเช่น กล้องตรวจจับความร้อน เครื่องตรวจจับเพลิงแบบต่อแขน เป็นต้น |
ผลต่อสุขภาพ | -ไอระเหยอาจเกิดภาวะขาดออกซิเจนและสลบโดยไม่รู้ตัว -สารบางชนิดเป็นพิษและอาจทำให้เสียชีวิตหากสูดดม กลืนกิน หรือดูดซึมผ่านผิวหนัง -หาสารเกิดลุกไหม้ อาจเกิดก๊าซที่มีฤทธิ์ระคายเคือง และ/หรือเป็นพิษ การสัมผัสก๊าซหรือก๊าซเหลวอาจเกิดแผลไหม้ บาดเจ็บสาหัส และ/หรือแผลจากความเย็นจัด |
การเข้าระงับเหตุเบื้องต้น
คำแนะนำเบื้องต้น | -โทรแจ้งหมายเลขฉุกเฉินที่ระบุในเอกสารกำกับขนส่ง หากไม่พบเอกสาร ฯ หรือ ไม่มีผู้รับสายให้โทรแจ้งหมายเลขที่เหมาะสมที่ระบุอยู่ด้านในปกหลังคู่มือ -กั้นแยกพื้นที่ที่สารรั่วไหลทันที่อย่างน้อย 100 เมตร(330 ฟุต) ทุกทิศทาง -กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห้างจากพื้นที่ -อยู่เหนือลม -ห้ามอยู่ในที่ต่ำ -ก๊าซหลายชนิดจะหนักกว่าอากาศและจะแพร่กระจายไปตามพื้น สะสมตัวในที่ต่ำ หรือที่อับอากาศ (ท่อระบายน้ำ ห้องใต้ดิน ถังเก็บ) |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง | 100 |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของเหลว | 0 |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของแข็ง | 0 |
ชุดป้องกัน
คำแนะนำ | -สวมใส่ชุดเครื่องช่วยหายใจส่วนบุคคลแบบมีถังอากาศ -ชุดดับเพลิงสามารถป้องกันอันตรายได้อย่างจำกัดเมื่อเกิดกรณีเพลิงไหม้สารแต่อาจไม่สามารถป้องกันอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพกรณีที่เกิดเฉพาะการหกรั่วไหล -สวมชุดป้องกันอันตรายจากอุณหภูมิเมื่อมีการถ่ายเทหรือจัดการก๊าซเหลวเย็นจัด |
ข้อควรระวัง | |
Type |
การอพยพ
การรั่วไหลขนาดเล็ก
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) |
การรั่วไหลขนาดใหญ่
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) |
กรณีเกิดการเพลิงไหม้
คำอธิบายการอพยพ ในกรณีที่เกิดการลุกไหม้ | -หากถังบรรจุขนาดใหญ่ ตู้รถไฟหรือรถบรรทุกสารเกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ ให้กั้นแยกพื้นที่เกิดเหตุ 1,600 เมตร ( 1 ไมล์) และพิจารณาอพยพประชาชนเบื้องต้น 1,600 เมตร ( 1 ไมล์) ทุกทิศทาง |
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | 1600 |
ระยะอพยพประชาชน ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ หน่วยเป็นเมตร | 1600 |
คำแนะนำ | 1.ห้ามดับเพลิงที่เกิดจากก๊าซรั่วจนกว่าจะหยุดการรั่วไหลได้ 2.คำเตือน : ไฮโดรเจน(UN 1049) ดิวเทอเรียม (UN 1957) หรือไฮโดรเจนเหลว (UN 1966) และมีเทน (UN 1971) เมื่อลุกติดไฟจะเกิดเปลวไฟที่มองไม่เห็น ก๊าซอัดความดันที่มีส่วนผสมไฮโดรเจนและมีเทน (UN 2034) อาจลุกติดไฟและเกิดเปลวไฟที่มองไม่เห็น |
การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
กรณีเกิดการเพลิงไหม้
ข้อควรระวัง หรือคำเตือน เ | 1.ห้ามดับเพลิงที่เกิดจากก๊าซรั่วจนกว่าจะหยุดการรั่วไหลได้ 2.คำเตือน : ไฮโดรเจน(UN 1049) ดิวเทอเรียม (UN 1957) หรือไฮโดรเจนเหลว (UN 1966) และมีเทน (UN 1971) เมื่อลุกติดไฟจะเกิดเปลวไฟที่มองไม่เห็น ก๊าซอัดความดันที่มีส่วนผสมไฮโดรเจนและมีเทน (UN 2034) อาจลุกติดไฟและเกิดเปลวไฟที่มองไม่เห็น |
เพลิงไฟขนาดเล็ก | 1.ผงเคมีแห้งและ CO2 |
เพลิงไฟขนาดใหญ่ | 1.ฉิดน้ำเป็นฝอยหรือหมอก 2.เคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุออกจากบริเวณเพลิงไหม้ หากทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย |
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ภาชนะบรรจุหรือรถขนส่ง | 1.ฉีดน้ำดับเพลิงจากระยะไกลที่สุด หรือใช้หัวฉีดน้ำชนิดที่ไม่ต้องใช้คนควบคุมหรือใช้แท่นฉิดน้ำแทน 2. ฉีดน้ำปริมาณมากหล่อเย็นภาชนิบรรจุจนกว่าเพลิงจะสงบ 3.ห้ามฉิดน้ำไปยังรอยรั่วหรืออุปกรณ์ระบายความดันโดยตรง อาจมีน้ำแข็งเกาะบริเวณดังกล่าว 4. อยู่ห่างจากภาชนะบรรจุที่ไฟลุกท่วมตลอดเวลา 5. ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ทันที หากอุปกรณ์ระบายความดันนิรภัยของภาชนะบรรจุเกิดเสียงดังหรือภาชนะบรรจุเปลี่ยนสี 6.สำหรับเพลิงไหม้รุ่นแรงและใหญ่มาก ให้ใช้หัวฉีดน้ำชนิดที่ไม่ต้องใช้มือจับหรือใช้แท่นฉีดน้ำแทนหากไม่มีให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่และปล่อยให้ไฟลุกไหม้จนดับไปเอง |
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ตู้สินค้า |
กรณีเกิดการหกรั่วไหล
วิธีการเข้าระงับเหตุ | 1. กำจัดแหล่งที่อาจทำให้เกิดการจุดไฟทั้งหมด (ห้ามสูบบุหรี่ จุดพลุ ทำให้เกิดประกายไฟหรือเปลวไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ) 2. กั้นบริเวณจนกว่าก๊าซพิษเจือจางไป 3. อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายเทหรือขนย้ายสารต้องต่อสายดิน 4. ห้ามสัมผัสหรือเกินย่ำผ่านบริเวณที่สารหกรั่วไหล 5. หากเป็นไปได้ หมุนภาชนะบรรจุจนอยู่ในต่ำแหน่งที่ของเหลวไม่ไหลออกมา จะมีก๊าซรั่วออกมาเท่านั้น 6. ระงับการรั่วไหลของสารหากทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย 7. ฉิดน้ำเป็นฝอยดักจับกลุ่มไอระเหยสารเพื่อลดความเข้มข้นหรือเปลี่ยนทิศทาง แต่อย่าให้น้ำที่ฉีดไหลไปสัมผัสกับตัวสารที่หกรั่วไหลโดยตรง 8. ห้ามฉีดน้ำใส่สารที่นองพื้นที่หรือจุดรั่วไหลโดยตรง 9. ป้องกันสารมิให้ไหลลงน้ำ ท่อระบายน้ำ ชั้นใต้ดิน หรือบริเวณอับอากาศ 10. คำเตือน : สารหลายชนิดเมื่อสัมผัสกับก๊าซเหลวเย็นจัด จะเปราะและแตกหักง่าย |
คำเตือนสำหรับการเข้าระงับเหตุเมื่อเกิดการหกรั่วไหล | |
หกรั่วไหลปริมาณเล็กน้อย | |
หกรั่วไหลปริมาณมาก |
การปฐมพยาบาล
คำแนะนำ | - นำผู้บาดเจ็บไปยังพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ - รักษาอุณหภูมิร่างกายผู้บาดเจ็บให้อบอุ่นและให้อยู่ในที่สงบ - โทรแจ้ง 191 หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉุกเฉิน (1669) - ใช้เครื่องช่วยหายใจหากผู้บาดเจ้ฐหยุดหายใจ - เสื้อผ้าที่แข็งติดผิวหนังต้องทำให้คลายตัวก่อนถอด - ให้ออกซิเจนถ้าผู้บาดเจ็บหายใจลำบาก - กรณีที่สัมผัสกับก๊าซเหลว ใช้น้ำอุ่านล้างเพื่อทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวคลายตัว - กรณีเกิดแผลไหม้ ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวเย็นทันทีโดยแช่น้ำเย็นนานเท่าที่จะทำได้ห้ามถอดเสื้อผ้าที่แข็งติดกับผิวหนัง - ต้องมั่นใจว่าหน่วยแพทย์ทราบชนิดและอันตรายของสารต่าง ๆ รวทั้งมีการป้องกั้นตนเองอย่งเหมะสม |
มาตรการกำจัดของเสีย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทำการดูดระบายอากาศ ห้ามฉีดน้ำใส่ของเหลวโดยตรง |
การทำปฏิกิริยา การระเบิด
ทำปฎิกิริยากับสารออกซิไดซ์ อะซิทิลีน ฮาโลเจน และไนโตรเจนออกไซด์ |
ข้อมูลสารเคมีที่ทําปฏิกิริยากัน
ข้อมูลการเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์
มาตรการป้องกัน
เก็บในที่ป้องกันกันไฟได้ |
ข้อมูลเพิ่มเติม
คำเตือน : สารหลายชนิดเมื่อสัมผัสกับก๊าซเหลวเย็นจัด จะเปราะและแตกหักง่าย |