ช้อมูลทั่วไป

ชื่อภาษาไทย แนพทาลีน
ชื่อภาษาอังกฤษ Naphthalene
ชื่อทางการค้า
ประเภทสารเคมี 4.1 ของแข็งไวไฟ
Cas no. 91-20-3
UN Number 1334
Formula C10H8
จุดเดือด 218 ํC องศาเซลเซียส
จุดหลอมละลาย 80 ํC องศาเซลเซียส
AEGL1 -
AEGL2 -
AEGL3 -
NFPA
2 2 0

ความอันตราย

กลุ่มสารเคมี ของแข็งไวไฟ
Polimerization ไม่เป็น Polimerization
สารเคมีมีอันตรายสูงหากสูดดม (Toxic Inhalation Hazard:TIH) ไม่เป็น
ก๊าซพิษเมื่่อสารสัมผัสกับน้ำ
อัคคีภัยหรือการระเบิด 1.สารไวไฟ/ติดไฟได้
2.อาจจุดติดไฟ เนื่องจากการเสียดสี ความรอ้น ประกายไฟ หรือเปลวไฟ
3.สารบางชนิดลุกไหม้อย่างรวดเร็วและเกิดเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่
4.ผง ฝุ่น หรือเศษจากการตัดแต่ง เจาะ กลึ่งหรือตัด อาจระเบิดหรือลุกไหม้พร้อมการระเบิด
5.สารอาจถูกส่งในสภาวะหลอมเหลวที่มีอุณหภูมิสูงกว่าจุดวาบไฟของสารนั้น
6.อาจลุกติดไฟซ้ำอีก หลังจากดับไฟได้แล้ว
ผลต่อสุขภาพ 1.หากสารเกิดลุกไหม้ อาจเกิดก๊าซที่มีฤทธิ์ระคายเคือง กัดกร่อน และ/หรือเป็นพิษ
2.การสัมผสกับสารอาจทำให้ผิวหนังและดวงตาเป็นแผลไหม้
3.การสัมผสกับสารในสภาวะหลอมเหลวอาจทำให้ผิวหนังและดวงตาเป็นแผลไหม้รุนแรง
4.น้ำเสียจากการดับเพลิงอาจก่อมลพิษ

การเข้าระงับเหตุเบื้องต้น

คำแนะนำเบื้องต้น 1.โทรแจ้งหมายเลขฉุกเฉินที่ระบุในเอกสารกำกับขนส่ง หากไม่พบเอกสาร ฯ หรือ ไม่มีผู้รับสายให้โทรแจ้งหมายเลขที่เหมาะสมที่ระบุอยู่ด้านในปกหลังคู่มือ
2.เพื่อเป็นมาตรการป้องกันเหตุฉุกเฉินเบื้องต้น กั้นแยกพื้นที่ที่สารรัวไหลทันทีอย่างน้อย 25 เมตร (75 ฟุต) ทุกทิศทาง
3.กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากพื้นที่
4.อยู่เหนือลม
5.ห้ามอยู่ในที่ต่ำ
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง 25
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของเหลว 0
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของแข็ง 0

ชุดป้องกัน

คำแนะนำ 1.สวมใส่ชุดเครื่องช่วยหายใจส่วนบุคคลแบบมีถังอากาศ
2.ชุดดับเพลิงสามารถป้องกันอันตรายได้อย่างจำกัดเมื่อเกิดกรณีเพลิงไหม้สารแต่อาจไม่สามารถป้องกันอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพกรณีที่เกิดเฉพาะการหกรั่วไหล
ข้อควรระวัง
Type

การอพยพ

การรั่วไหลขนาดเล็ก

กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร)
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร)
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร)

การรั่วไหลขนาดใหญ่

กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร)
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร)
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร)

กรณีเกิดการเพลิงไหม้

คำอธิบายการอพยพ ในกรณีที่เกิดการลุกไหม้ 1.หากถังบรรจุขนาดใหญ่ ตู้รถไฟหรือรถบรรทุกสาร เกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ ให้กั้นแยกพื้นที่เกิดเหตุ 800 เมตร ( 1/2 ไมล์) และพิจารณาอพยพประชาชนเบื้องต้น 800 เมตร ( 1/2 ไมล์) ทุกทิศทาง
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) 800
ระยะอพยพประชาชน ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ หน่วยเป็นเมตร 800
คำแนะนำ

การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน

กรณีเกิดการเพลิงไหม้

ข้อควรระวัง หรือคำเตือน เ
เพลิงไฟขนาดเล็ก 1.ผงเคมีแห้ง CO2 ทราย ดิน น้ำฉีดเป็นฝอย หรือโฟมดับเพลิงชนิดมีขั้ว
เพลิงไฟขนาดใหญ่ 1.ฉีดน้ำเป็นฝอย หมอก หรือโฟมดับเพลิง
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ภาชนะบรรจุหรือรถขนส่ง เพลิงไหม้/เกิดอยู่ใกล้ผงโลหะหรือโลหะในสภาวะหลอมเหล (เช่น อลูมิเนียมเหลว)
- เพลิงไหม้อลูมิเนียมเหลวควรดำเนินการตามวิธีการระงับเหตุเพลิงไหม้โลหะที่ลุกติดไฟได้ใช้ทรายแห้งผงกราไฟต์ สารดับเพลิงที่ผสมเกลือแห้ง เช่น ผง G-1 หรือ Met L-X รวมทั้งให้ดู Guide 170
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ตู้สินค้า 1. ฉีดน้ำปริมาณมากหล่อเย็นภาชนะบรรจุ จนกว่าเพลิงจะสงบ
2. สำหรับเพลิงไหม้รุนแรงและใหญ่มาก ให้ใช้หัวฉีดชนิดที่ไม่ต้องใช้มือจับหรือใช้แท่นฉิดน้ำแทนหากไม่มีให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่และปล่อยให้ไฟลุกไหม้จนดับไปเอง
3. ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ทันทีหากอุปกรณ์ระบายความดันนิรภัยของภาชนะบรรจุเกิดเสียงดังหรือภาชนะบรรจุเปลี่ยนสี
4. อยู่ห่างจากภาชนะบรรจุที่ไฟลุกท่วมตลอดเวลา

กรณีเกิดการหกรั่วไหล

วิธีการเข้าระงับเหตุ 1.กำจัดแหล่งที่อาจทำให้เกิดการจุดไฟทั้งหมด (ห้ามสูบบุหรี่ จุดพลุ ทำให้เกิดประกายไฟหรือเปลวไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ)
2. ห้ามสัมผัสหรือเดินย่ำผ่านบริเวณที่สาารหกรั่วไหล
คำเตือนสำหรับการเข้าระงับเหตุเมื่อเกิดการหกรั่วไหล
หกรั่วไหลปริมาณเล็กน้อย 1.(สารแห้ง) ตักสารที่หกหล่นด้วยพลั่วสะอาดใส่ในภาชนะบรรจุที่สะอาดและแห้ง และปิดฝาอย่างหลวม ๆ ขนย้ายภาชนะบรรจุนั้นออกจากจุดเกิดเหตุ
หกรั่วไหลปริมาณมาก 1.ทำให้สารเปิยกด้วยน้ำ และสร้างคันกั้นหรือขุดร่องกักสารเพื่อกำจัดต่อไป
2.ป้องกันมิให้สารไหลลงน้ำ ท่อระบายน้ำ ชั้นใต้ดิน หรือบริเวณอับอากาศ

การปฐมพยาบาล

คำแนะนำ 1.นำผู้บาดเจ็บไปยังพื้นที่อากาศบริสุทธิ์
2. โทรแจ้ง 191 หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉุกเฉิน 1669
3. ใช้เครื่องช่วยหายใจหากผู้บาดเจ็บหยุดหายใจ
4. ให้ออกซิเจนถ้าผู้บาดเจ็บหายใจลำบาก
5. ถอดและแยกเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อน
6. รักษาอุณหภูมิร่างกายผู้บาดเจ็บให้อบอุ่นและให้อยู่ในที่สงบ
7. ถ้าสัมผัสกับสาร ให้ล้างผิวหนังและดวงตาโดยวิธีให้น้ำหลผ่านทันที อย่างน้อย 20 นาที
8.การกำจัดสารที่เป็นของแข็งหลอมเหลวออกจากผิวหนังต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์
9. ต้องมั่นใจว่าหน่วยแพทย์ทราบชนิดและอันตรายของสารต่าง ๆ รวมทั้งมีการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม

มาตรการกำจัดของเสีย

เก็บกวาดสารที่หกออกมาใส่ภาชนะที่มีฝาปิด ถ้าเปป็นไปได้ทำให้สารชื้นก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่น เก็บสารที่เหลืออย่างระมัดระวัง แล้วนำไปทิ้งในที่ที่ปลอดภัย

การทำปฏิกิริยา การระเบิด

ที่อุณหภูมิ 80 ํC อาจเกิดส่วนที่ผสมของไอ/อากาศที่ระเบิดได้ อนุภาคละเอียดที่ฟุ้งกระจายในอากาศเกิดเป็นส่วนที่สามารถระเบิดได้

ข้อมูลสารเคมีที่ทําปฏิกิริยากัน

ข้อมูลการเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์

สารนี้เป็นพิษอย่างมากต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สารนี้อาจส่งผลระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมในน้ำ

มาตรการป้องกัน

เก็บแยกจากสารออกซิไดซ์อย่างแรง เก็บในพื้นที่ที่ไม่มีทางเข้าของท่อระบายน้ำเข้าถึง

ข้อมูลเพิ่มเติม

Version: 1.0.190 BETA