ช้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย | โซเดียม คลอไรด์ |
ชื่อภาษาอังกฤษ | Sodium chlorite |
ชื่อทางการค้า | |
ประเภทสารเคมี | 5.1 สารออกซิไดส์ |
Cas no. | 7758-19-2 |
UN Number | 1496 |
Formula | NaClO2 |
จุดเดือด | - องศาเซลเซียส |
จุดหลอมละลาย | - องศาเซลเซียส |
AEGL1 | - |
AEGL2 | - |
AEGL3 | - |
NFPA |
0
1
1
OXY
|
ความอันตราย
กลุ่มสารเคมี | สารออกซิไดซ์ (ไม่เสถียร) |
Polimerization | ไม่เป็น Polimerization |
สารเคมีมีอันตรายสูงหากสูดดม (Toxic Inhalation Hazard:TIH) | ไม่เป็น |
ก๊าซพิษเมื่่อสารสัมผัสกับน้ำ | |
อัคคีภัยหรือการระเบิด | 1.อาจระเบิดเนื่องจากการเสียดสี ความร้อน หรือการปนเปื้อน
2.สารเหล่านี้จะเร่งการเผาไหม้เมื่อยู่ในกองเพลิง 3.อาจทำให้สารที่ลุกติดไฟ เช่น ไม้ กระดาษ น้ำมัน ผ้า ลุกติดไฟ 4.สารบางชนิดทำปฏิกิริยาอย่างรุนแรงกับสารกลุ่มไฮโดรคาร์บอน (น้ำมันเชื้อเพลิง) 5.ภาชนะบรรจุอาจระเบิดเมื่อได้รับความร้อน 6.น้ำเสียจากพื้นที่เกิดเหตุอาจทำให้เกิดเพลิงไหม้หรือการระเบิด |
ผลต่อสุขภาพ | 1.เป็นพิษ : การสูดดม กินหรือสัมผัส (ผิวหนัง ดวงตา) กับไอระเหย ฝุ่นหรือตัวสารอาจเกิดบาดเจ็บรุนแรงและแผลไหม้หรือเสียชีวิต
2.หากสารเกิดลุกไหม้ อาจเกิดก๊าซที่มีฤทธิ์ระคายเคือง กัดกร่อน และ/หรือเป็นพิษ 3.ไอสารที่ไวไฟ/เป็นพิษ อาจสะสมตัวในที่อับอากาศ (เช่น ชั้นใต้ดิน ถังบรรจุรถขนส่ง ฯ) 4.น้ำเสียจากการดับเพลิงหรือที่ใช้เจือจางสาร อาจก่อมลพิษ |
การเข้าระงับเหตุเบื้องต้น
คำแนะนำเบื้องต้น | 1.โทรแจ้งหมายเลขฉุกเฉินที่ระบุในเอกสารกำกับขนส่ง หากไม่พบเอกสาร ฯ หรือ ไม่มีผู้รับสายให้โทรแจ้งหมายเลขที่เหมาะสมที่ระบุอยู่ด้านในปกหลังคู่มือ
2.กั้นแยกพื้นที่ที่สารรั่วไหลทันทีทุกทิศทางอย่างน้อย 50 เมตร (150 ฟุต) ถ้าเป็นของเหลว และอย่างน้อย 25 เมตร (75 ฟุต) ถ้าเป็นของแข็ง 3.กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห่างจากพื้นที่ 4.อยู่เหนือลม 5.ห้ามอยู่ในที่ต่ำ 6. ระบายอากาศพื้นที่อับอากาศก่อนเข้าระงับเหตุ |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง | 50 |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของเหลว | 0 |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของแข็ง | 0 |
ชุดป้องกัน
คำแนะนำ | 1.สวมใส่ชุดเครื่องช่วยหายใจส่วนบุคคลแบบมีถังอากาศ
2.สวมชุดป้องกันอันตรายจากสารเคมีตามข้อแนะนำของบริษัทผู้ผลิต ทั้งนี้ชุดป้องกันอันตรายจากสารเคมีไม่สามารถป้องกันอันตรายจากความร้อนสูง 3.ชุดดับเพลิงสามารถป้องกันอันตรายได้อย่างจำกัดเมื่อเกิดกรณีเพลิงไหม้สารแต่อาจไม่สามารถป้องกันอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพกรณีที่เกิดเฉพาะการหกรั่วไหล |
ข้อควรระวัง | |
Type |
การอพยพ
การรั่วไหลขนาดเล็ก
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) |
การรั่วไหลขนาดใหญ่
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) | |
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) |
กรณีเกิดการเพลิงไหม้
คำอธิบายการอพยพ ในกรณีที่เกิดการลุกไหม้ | 1.หากถังบรรจุขนาดใหญ่ ตู้รถไฟหรือรถบรรทุกสาร เกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ ให้กั้นแยกพื้นที่เกิดเหตุ 800 เมตร ( 1/2 ไมล์) และพิจารณาอพยพประชาชนเบื้องต้น 800 เมตร ( 1/2 ไมล์) ทุกทิศทาง |
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | 800 |
ระยะอพยพประชาชน ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ หน่วยเป็นเมตร | 800 |
คำแนะนำ |
การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
กรณีเกิดการเพลิงไหม้
ข้อควรระวัง หรือคำเตือน เ | |
เพลิงไฟขนาดเล็ก | 1.ใช้น้ำ ห้ามใช้ผงเคมีแห้งหรือโฟมดับเพลิง
2.การใช้ CO2 หรือฮาลอน (Halon) อาจมีประสิทธิภาพจำกัด |
เพลิงไฟขนาดใหญ่ | 1.ฉีดน้ำดับเพลิงปริมาณมากจากระยะไกล
2.ห้ามฉีดน้ำเข้าไปภายในภาชนะบรรจุ : อาจเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง 3.ห้ามเคลื่อนย้ายตู้สินค้าหรือรถขนส่งหากตู้สินค้าได้รับความร้อนเป็นเวลานาน 4. เคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุออกจากบริเวณเพลิงไหม้ หากทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย |
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ภาชนะบรรจุหรือรถขนส่ง | 1. ฉีดน้ำปริมาณมากหล่อเย็นภาชนะบรรจุ จนกว่าเพลิงจะสงบ
2.สร้างคันกั้นหรือร่องกักน้ำเสียจากการดับเพลิงเพื่อส่งกำจัดต่อไป 3. อยู่ห่างจากภาชนะบรรจุที่ไฟลุกท่วมตลอดเวลา 4. สำหรับเพลิงไหม้รุนแรงและใหญ่มาก ให้ใช้หัวฉีดชนิดที่ไม่ต้องใช้มือจับหรือใช้แท่นฉิดน้ำแทนหากไม่มีให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่และปล่อยให้ไฟลุกไหม้จนดับไปเอง |
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ตู้สินค้า |
กรณีเกิดการหกรั่วไหล
วิธีการเข้าระงับเหตุ | 1.แยกวัสดุ/สารที่ลุกติดไฟได้ (ไม้ กระดาษ น้ำมัน ฯ) ออกจากบริเวณที่มีการรั่วไหล
2.ห้ามสัมผัสภาชนะบรรจุที่เสียหายหรือสารที่หกรั่วไหล หากไม่สามใส่ชุดป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสม 3.ฉีดน้ำเป็นฝอยดักจับเพื่อลดหรือเปลี่ยนทิศทางไอระเหยสาร 4. ป้องกันมิให้สารไหลลงน้ำ ท่อระบายน้ำ ชั้นใต้ดิน หรือบริเวณอับอากาศ |
คำเตือนสำหรับการเข้าระงับเหตุเมื่อเกิดการหกรั่วไหล | |
หกรั่วไหลปริมาณเล็กน้อย | ล้างบริเวณเกิดเหตุด้วยน้ำปริมาณมาก |
หกรั่วไหลปริมาณมาก | ห้ามทำความสะอาดพื้นที่หรือกำจัดสาร ยกเว้นดำเนินการภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ |
การปฐมพยาบาล
คำแนะนำ | 1.นำผู้บาดเจ็บไปยังพื้นที่อากาศบริสุทธิ์
2. โทรแจ้ง 191 หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉุกเฉิน 1669 3. ใช้เครื่องช่วยหายใจหากผู้บาดเจ็บหยุดหายใจ 4. ให้ออกซิเจนถ้าผู้บาดเจ็บหายใจลำบาก 5. ถอดและแยกเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อน 6.หากเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนนั้นแห้งอาจลุกติดไฟ 7. รักษาอุณหภูมิร่างกายผู้บาดเจ็บให้อบอุ่นและให้อยู่ในที่สงบ 8. ถ้าสัมผัสกับสาร ให้ล้างผิวหนังและดวงตาโดยวิธีให้น้ำหลผ่านทันที อย่างน้อย 20 นาที 9. ต้องมั่นใจว่าหน่วยแพทย์ทราบชนิดและอันตรายของสารต่าง ๆ รวมทั้งมีการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม |
มาตรการกำจัดของเสีย
เก็บกวาดสารที่หกออกมาใส่ในภาชนะที่ปิดสนิท ถ้าเป็นไปได้ทำให้สารชื้นก่อนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝุ่น เก็บสารที่เหลืออย่างระมัดระวังแล้วนำไปทิ้งในที่ที่ปลอดภัย ห้ามดูดซับด้วยขี้เลื่อยหรือสารดูดซับที่ติดไฟได้ |
การทำปฏิกิริยา การระเบิด
ทำปฏิกิริยากับวัสดุที่ติดไฟได้และวัสดุรีดิวซ์ ทำปฏิกิริยารุนแรงกับกรด สารประกอบแอมโมเนีย ฟอสฟอรัส ซัลเฟอร์ sodium dithionate |
ข้อมูลสารเคมีที่ทําปฏิกิริยากัน
ข้อมูลการเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์
ป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่ระบบสุขาภิบาล, ดิน หรือสิ่งแวดล้อม |
มาตรการป้องกัน
เก็บแยกจากสารที่ติดไฟได้และสารรีดิวซ์ กรด และวัสดุที่เข้ากันไม่ได้อื่นๆ เก็บในที่เย็น เก็บในที่แห้ง เก็บในห้องที่มีการระบายอากาศที่ดี |