ช้อมูลทั่วไป
ชื่อภาษาไทย | อะเซทิลีน |
ชื่อภาษาอังกฤษ | Acetylene |
ชื่อทางการค้า | |
ประเภทสารเคมี | 2.1 ก๊าซไวไฟ |
Cas no. | 74-86-2 |
UN Number | 1001 |
Formula | C2H2 |
จุดเดือด | -85 องศาเซลเซียส |
จุดหลอมละลาย | -81 องศาเซลเซียส |
AEGL1 | - |
AEGL2 | - |
AEGL3 | - |
NFPA |
4
1
3
|
ความอันตราย
กลุ่มสารเคมี | ก๊าซ - ไวไฟ (ไม่เสถียร) |
Polimerization | ไม่เป็น Polimerization |
สารเคมีมีอันตรายสูงหากสูดดม (Toxic Inhalation Hazard:TIH) | ไม่เป็น |
ก๊าซพิษเมื่่อสารสัมผัสกับน้ำ | |
อัคคีภัยหรือการระเบิด | - ไวไฟสูงมาก - ลุกติดไฟได้ง่ายเมื่อได้รับความร้อน ประกายไฟ หรือเปลวไฟ - เมื่อผสมกับอากาศอาจเกิดส่วนผสมที่ระเบิดได้ - ซิเลน (Silanes) ลุกติดไฟได้เองเมื่อสัมผัสอากาศ สารที่ชื่อมีสัญลักษณ์ตัว P อาจเกิดระเบิดเนื่องจากปฏิกิริยาโพลิเมอไรซ์เมื่อได้รับความร้อนหรืออยู่ใกล้เพลิงไหม้ - ไอระเหยจากก็าซ ในขึ้นต้นจะหนักกว่าอากาศ และแพร่กระจายไปตามพื้น -ถังบรรจก๊าชทรงกระบอกที่เกิดเพลิงไหม้อาจปล่อยก๊าชไวไฟออกมาทางอุปกรณ์ควบคุมความดันนิรภัย -ภาชนะบรรจุอาจระเบิดเมื่อได้รับความร้อน - ถังบรรจุก๊าซทรงกระบอกที่ฉิกขาดอาจพุ่งไปในทิศทางต่าง |
ผลต่อสุขภาพ | - ไอระเหยอาจทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนและสลบโดยไม่รู้ตัว -สารบางชนิดเป็นพิษและอาจทำให้เสียชีวิตหากสูดดม กลืนกิน หรือดูดซึมผ่านผิวหนัง - การสัมผัสก๊าซหรือก๊าซเหลวอาจเกิดแผลไหม้ บาดเจ็บสาหัส และ/หรือแผลจากความเย็นจัด -หากสารเกิดลุกไหม้ อาจเกิดก๊าชที่มีฤทธิ์ระคายเคือง และ/หรือเป็นพิษ |
การเข้าระงับเหตุเบื้องต้น
คำแนะนำเบื้องต้น | -โทรแจ้งหมายเลขฉุกเฉินที่ระบุในเอกสารกำกับขนส่ง หากไม่พบเอกสาร ฯ หรือ ไม่มีผู้รับสายให้โทรแจ้งหมายเลขที่เหมาะสมที่ระบุอยู่ด้านในปกหลังคู่มือ -กั้นแยกพื้นที่ที่สารรั่วไหลทันที่อย่างน้อย 100 เมตร(330 ฟุต) ทุกทิศทาง -กันบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกห้างจากพื้นที่ -อยู่เหนือลม -ห้ามอยู่ในที่ต่ำ -ก๊าซหลายชนิดจะหนักกว่าอากาศและจะแพร่กระจายไปตามพื้น สะสมตัวในที่ต่ำ หรือที่อับอากาศ (ท่อระบายน้ำ ห้องใต้ดิน ถังเก็บ) |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง | 100 |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของเหลว | 0 |
กั้นแยกพื้นที่รอบทิศทาง กรณีสารมีสถานะเป็นของแข็ง | 0 |
ชุดป้องกัน
คำแนะนำ | -สวมใส่ชุดเครื่องช่วยหายใจส่วนบุคคลแบบมีถังอากาศ -ชุดดับเพลิงสามารถป้องกันอันตรายได้อย่างจำกัดเมื่อเกิดกรณีเพลิงไหม้สารแต่อาจไม่สามารถป้องกันอันตรายอย่างมีประสิทธิภาพกรณีที่เกิดเฉพาะการหกรั่วไหล -สวมชุดป้องกันอันตรายจากอุณหภูมิเมื่อมีการถ่ายเทหรือจัดการก๊าซเหลวเย็นจัด |
ข้อควรระวัง | |
Type |
การอพยพ
การรั่วไหลขนาดเล็ก
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | 0 |
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) | 0 |
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) | 0 |
การรั่วไหลขนาดใหญ่
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | 0 |
เขตป้องกันใต้ลม กลางวัน (เมตร) | 0 |
เขตป้องกันใต้ลม กลางคืน (เมตร) | 0 |
กรณีเกิดการเพลิงไหม้
คำอธิบายการอพยพ ในกรณีที่เกิดการลุกไหม้ | -หากถังบรรจุขนาดใหญ่ ตู้รถไฟหรือรถบรรทุกสารเกี่ยวข้องกับเพลิงไหม้ ให้กั้นแยกพื้นที่เกิดเหตุ 1,600 เมตร ( 1 ไมล์) และพิจารณาอพยพประชาชนเบื้องต้น 1,600 เมตร ( 1 ไมล์) ทุกทิศทาง |
กั้นเขตอัตรายรอบทิศทาง (เมตร) | 1600 |
ระยะอพยพประชาชน ในกรณีที่เกิดเพลิงไหม้ หน่วยเป็นเมตร | 1600 |
คำแนะนำ |
การดำเนินการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
กรณีเกิดการเพลิงไหม้
ข้อควรระวัง หรือคำเตือน เ | |
เพลิงไฟขนาดเล็ก | |
เพลิงไฟขนาดใหญ่ | - ฉีดน้ำเป็นฝอยหรือหมอก - เคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุออกจากบริเวณเพลิงไหม้ หากทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย |
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ภาชนะบรรจุหรือรถขนส่ง | - ฉีดน้ำดับเพลิงจากระยะไกลที่สุด หรือใช้หัวฉีดน้ำชนิดที่ไม่ต้องใช้คนควบคุมรหือใช้แท่นฉิดน้ำแทน - ฉีดน้ำปริมาณมากหล่อเย็นภาชนะบรรจุ จนกว่าเพลิงจะสงบ - ห้ามฉีดน้ำไปยังรอยรั่วหรืออุปกรณ์ระบายความดันโดยตรง อาจมีน้ำแข็งเกาะบริเวณดังกล่าว - ถอนกำลังเจ้าหน้าที่ทันทีหากอุปกรณ์ระบายความดันนิรภัยของภาชนะบรรจุเกิดเสียงดังหรือภาชนะบรรจุเปลี่ยนสี - อยู่ห่างจากภาชนะบรรจุที่ไฟลุกท่วมตลอดเวลา - สำหรับเพลิงไหม้รุ่นแรงและใหญ่มาก ให้ใช้หัวฉีดชนิดที่ไม่ต้องใช้มือจับหรือใช้แท่นฉิดน้ำแทนหรากไม่มีให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่และปล่อยให้ไฟลุกไหม้จนดับไปเอง |
เพลิงไหม้ หรือ เกิดอยู่ใกล้ ตู้สินค้า |
กรณีเกิดการหกรั่วไหล
วิธีการเข้าระงับเหตุ | - กำจัดแหล่งที่อาจทำให้เกิดการจุดไฟทั้งหมด (ห้ามสูบบุหรี่ จุดพลุ ทำให้เกิดประายไฟหรือเปลวไฟบริเวณจุดเกิดเหตุ) - ระงับการรั่วไหลทำโดยไม่เสี่ยงอันตราย - อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายเทหรือขนย้ายสารต้องต่อสายดิน - ห้าสัมผัสหรือเดินย่ำผ่านบริเวณที่สารหกรั่วไหล - หากเป็นไปได้ให้หมุนภาชนะบรรจุจนอยู่ในต่ำแหน่งที่จะมีก๊าซรั่วออกมาเท่านั้น แทนที่จะเป็นของเหลว - ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยดักจับกลุ่มไอระเหยสารเพื่อลดความเข้ฒข้นหรือเปลี่ยนทิศทางไอระเหยแต่พยายามอย่าให้น้ำที่ฉีดไหลไปสัมผัสกับตัวสารที่หกรั่วไหลโดยตรง - ห้ามฉีดน้ำใส่สารที่นองพื้นที่หรือจุดรั่วไหลโดยตรง - ห้ามฉีดน้ำใส่สารที่นองพื้นที่หรือจุดรั่วไหลโดยตรง กั้นบริเวณจนกว่าก๊าซพิษเจือจางไป ป้องกันมิให้สารไหลลงน้ำ ท่อระบายน้ำ ชั้นใต้ดิน หรือบริเวณอับอากาศ |
คำเตือนสำหรับการเข้าระงับเหตุเมื่อเกิดการหกรั่วไหล | |
หกรั่วไหลปริมาณเล็กน้อย | |
หกรั่วไหลปริมาณมาก |
การปฐมพยาบาล
คำแนะนำ | -นำผู้บาดเจ็บไปยังพื้นที่อากาศบริสุทธิ์ - โทรแจ้ง 191 หรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ฉุกเฉิน 1669 - ให้เครื่องช่วยหายใจหากผู้บาดเจ็บหยุดหายใจ - ให้ออกซิเจนถ้าผู้บาดเจ็บหายใจลำบาก - ถอดและแยกเก็บเสื้อผ้าและรองเท้าที่ปนเปื้อน กรณีที่สัมผัสกับก๊าซเหลว ใช้น้ำอุ่นล้างเพื่อทำให้กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวคลายตัว - กรณีเกิดแผลไหม้ ทำให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวเย็นทันทีโดยแช่น้ำเย็นนานเท่าที่จะทำได้ ห้ามถอดเสื้อผ้าที่แข็งติดกับผิวหนัง - รักษาอุณหภูมิร่างกายผู้บาดเจ็บให้อบอุ่นและให้อยู่ในที่สงบ - ต้องมั่นใจว่าหน่วยแพทย์ทราบชนิดและอันตรายของสารต่าง ๆ รวมทั้งมีการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม |
มาตรการกำจัดของเสีย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ดูดระบาย อากาศ เคลื่อนย้ายแหล่งที่ติดไฟได้ทั้งหมด |
การทำปฏิกิริยา การระเบิด
ส่วนผสม ก๊าซ/อากาศอาจ ระเบิดได้ |
ข้อมูลสารเคมีที่ทําปฏิกิริยากัน
ข้อมูลการเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์
มาตรการป้องกัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
คำเตือน : สารหลายชนิดเมื่อสัมผัสกับก๊าซเหลวเย็นจัด จะเปราะและแตกหักง่าย |